ความตื่นเต้น ของวัยเรียน

แหม!! เผลอแปปเดียวนี่ก็ผ่านมาอีกปีแล้วนะคะที่พวกน้องๆเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ และพี่ก็เชื่อว่าน้องๆทุกคนต้องหวนคิดถึงช่วงเวลาที่เป็นเด็กอยู่แน่ๆเลย และอย่าบอกพี่ว่าไม่คิด เพราะพี่ไม่เชื่อแน่ๆ ว่าจะไม่มีใครที่จะไม่คิดถึงช่วงเวลาที่เรายังเป็นเด็ก เพราะแม้แต่พี่เองที่เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ก็ยังอดที่จะไม่คิดถึงไม่ได้ และในบรรดาเรื่องราวในวัยเด็กของพี่ รู้ไหมว่าพี่คิดถึงช่วงเวลาไหนมากที่สุด? อยากรู้กันไหมเอ่ยย? โอเคพี่จะบอกให้ ช่วงเวลาที่พี่คิดถึงมากที่สุดนั้นก็คือ วันแรกที่พี่ได้เข้า .1 เพราะอะไรรู้ไหม ก็เพราะว่ามันคือการเริ่มต้นใหม่ของทุกๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใหม่ เครื่องแบบชุดนักเรียนใหม่ และที่สำคัญเพื่อนใหม่ พี่ว่าน้องๆที่เข้ามาอ่าน ร้อยทั้งร้อยก็ต้องรู้สึกเหมือนที่พี่รู้สึกอะ เพราะมนุษย์เราทุกคนมักจะตื่นเต้นกับอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ แล้วยิ่งสำหรับเด็กประถมที่กำลังก้าวกระโดดไปในระดับชั้นมัธยม แน่นอนว่านี่คือการตื่นเต้นขั้นแรกอะ

 

อาจจะมีน้องๆหลายคนสงสัย เห้ยพี่! ไอตื่นเต้นขั้นแรกนี่มันคืออะไรอะพี่?

 

โอเคมา! พี่จะบอกให้ว่าการตื่นเต้นขั้นแรกมันคืออะไร มันก็คือ  

 

 

 


 

 

เราจะสอบเข้าโรงเรียนที่เราหวังได้ไหมน้า?

 

ใช่ไหม พี่รู้ว่าน้องๆก็เคยมีความรู้สึกนี้กัน สำหรับน้องๆ .6 ในช่วงนั้น เรื่องนี้คือเรื่องใหญ่มาก เพราะมันคือความหวังของครอบครัวและมันก็คืออนาคตของน้องด้วย ซึ่งพี่ก็เคยรู้สึกกดดันแบบนี้เหมือนกัน เช่น เห้ย! เราจะทำได้ไหมวะ เราทำข้อสอบไม่ได้เลยอะ เราจะสอบติดหรอวะ แล้วถ้าเราสอบไม่ติดพ่อกับแม่จะว่าเราไหม นี่คือตัวอย่างของความกดดันหลายๆที่พี่ยกมา แต่พี่ก็ก้าวผ่านความกดดันพวกนั้นมาได้ เพราะว่าพี่มั่นใจว่าพี่ทำได้ และพี่ก็เชื่อว่าน้องๆหลายคนก็ก้าวผ่านมันไปได้เหมือนกัน ขอแค่น้องตั้งใจและก็มั่นใจในตัวเองให้มากๆน้องก็จะผ่านทุกบททดสอบที่ผ่านเข้ามาได้แน่นอน   

   


 

เมื่อเราสอบเข้าได้แล้ว เราต้องเจอกับอะไรบ้างหว่า?

 

อืม หัวข้อนี้ ก็เป็นอีกหัวข้อหนึ่งของความตื่นเต้นนะ น้องๆหลายคนอาจจะคิดว่า อ้าวพี่ แล้วการที่เรารู้ผลสอบว่าเราสอบเข้าได้นี่มันไม่ตื่นเต้นหรอ? อะ พี่รู้ภาคภูมิใจเหลือเกินที่มีคนตั้งคำถามนี้กับพี่ เพราะมันจะทำให้พี่ไปต่อได้ โอเค เราจะไม่นอกเรื่องไปมากกว่านี้ เราจะมาตอบข้อสงสัยของน้องๆกัน การที่เรารู้ผลว่าเราสอบเข้าได้เนี่ย มันไม่เชิงว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น ไม่ใช่ไม่เชิงแต่มันไม่ใช่เลยแหละ กลับกันมันคือความรู้สึกดีใจมากกว่า ประมาณว่า เย้! เราสอบเข้าได้แล้ว! อารมณ์มันจะประมาณนี้ แต่ความรู้สึกตื่นเต้นอะมันจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ต่างหาก อ่า เริ่มนึกออกกันแล้วใช่ไหม ว่าความตื่นเต้นมันอยู่มันอยู่ตรงไหน น้องๆก็จะมีความรู้สึกว่า เห้ย! ต่อไปนี้เราจะเจอกับอะไรวะ เมื่อเรารู้แล้วว่า เรามีโอกาสได้เรียนต่อ สิ่งที่เราต้องเตรียมและต้องเจอหลังจากนี้นี่แหละ คือความตื่นเต้นในข้อที่สองที่พี่ได้กล่าวไว้ 


และเราก็จบกันไปในเรื่องของความตื่นเต้นขั้นแรก และก็แน่นอนว่าความตื่นเต้นมันไม่ได้มีแค่นี้แน่นอน มันยังมีมากกว่านี้อีก แต่ก่อนที่เราจะไปถึงขั้นนั้น พี่เชื่อว่าหลายๆบ้านที่รู้ว่าลูกๆของตัวเองเนี่ยมีที่เรียนแล้วก็ต้องเป็นแบบนี้กันทุกบ้าน รวมถึงบ้านพี่ด้วย นั้นก็คือ แห่กันไปซื้อชุดนักเรียนใหม่ รองเท้านักเรียนคู่ใหม่ รองเท้าพละและยังจะกระเป๋าอีก โห่ยย! คือเยอะแยะไปหมดอะ ก็คือเห่อหนักกว่าลูกอีกจ้า พอคิดถึงเรื่องนี้แล้วก็ขำ บ้านใครเป็นแบบนี้บ้าง? คือจริงๆมันต้องมีอะ คือพ่อแม่เขาก็ดีใจแทนเราไง แต่ท่านไม่รู้จะแสดงออกมายังไง บางครอบครัวก็มีการแสดงความรักที่แตกต่างกันไป บางครอบครัวก็แสดงความรักกันอย่างเปิดเผย แต่บางครอบครัวที่แบบยังมีความเขินอาย ก็อาจจะแบบแสดงความรักโดยการพาไปซื้อนู้นซื้อนี่เพื่อตอบแทนในของตั้งใจของเรา ที่เราพยายามและตั้งใจอะไรแบบนี้ ซึ่งครอบครัวพี่ ก็แสดงความรักและการขอบคุณกันในแบบที่สอง คือพี่แค่จะบอกว่า คนเป็นพ่อเป็นแม่อะ เขาจะอยู่กับเราในทุกๆโมเมนต์ของเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เรายังเป็นเด็กตัวเล็กๆจนกระทั่งเราโตเป็นผู้ใหญ่มีการงานทำ มีครอบครัวที่สมบูรณ์ เขาก็ยังอยู่กับเรา นั่งดูเราประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่มีใครรักและหวังดีกับเราได้เท่ากับคนสองคนที่เลี้ยงดูเรามาหรอกน้องเชื่อพี่ ที่เขาดุ เขาว่า เขาด่า ที่เขาบังคับเรานู่นนี่นั้น ก็เพราะพวกท่านอยากให้เติบโตขึ้นในเส้นทางที่ดีก็เท่านั้น  

 


 

พี่ว่าเรานอกเรื่องกันมากพอแล้ว เรามาเข้าเรื่องของเราต่อ ความตื่นเต้นขั้นสุดยอด จำได้ไหม? พี่ว่าน้องๆคงจะยังไม่ลืมความรู้สึกแรกที่ได้เข้าไปเรียนวันแรกกันใช่ไหม? พี่เชื่อว่าไม่มีคนจำไม่ได้ มันอาจจะเลือนลางไปบ้าง แต่ก็ต้องมีบางช่วงเหตุการณ์บ้างแหละที่มันผุดขึ้นมา น้องๆรู้ไหมว่าความตื่นเต้นขั้นสุดยอดมันอยู่ตรงไหน? มันก็อยู่ตรงที่เราได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนนั่นไง โรงเรียนมันก็สังคมหนึ่งที่จะทำให้น้องๆได้เติบโตและเรียนรู้ในสิ่งต่างๆที่น้องไม่เคยได้รู้มาก่อน แถมโรงเรียนคือสถานที่ ที่ทำให้น้องๆได้เจอเพื่อน ได้สนุกกับกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียนได้จัดขึ้น และนี่แหละคือการตื่นเต้นขั้นสุดยอด เพราะเราไม่รู้เลยว่าเราจะเจอกับอะไรหลังจากนี้ และทุกๆครั้งที่เราห้วนกลับไปคิดถึงช่วงเวลานั้น พวกน้องอาจจะมีความรู้สึกแบบอยากกลับไปตอนที่เรายังเป็นเด็กจัง อะไรประมาณนี้ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะมีความรู้สึกแบบนั้น เพราะว่าตอนที่เราเป็นเด็ก เราแค่สนุกอย่างเดียว ไม่ต้องคิดอะไรมากเลย ก็แค่เล่นสนุกไปวันๆ แล้วใครบ้างจะไม่อยากกลับไปเป็นเด็ก ถูกไหม?  

 


 

 

 

และสุดท้ายนี่พี่ก็ไม่มีอะไรมาก แค่จะบอกว่า ที่พี่ได้นำเรื่องนี้มาเขียนก็เพราะว่า ตัวพี่นั้นคิดถึงช่วงเวลาหนึ่งในอดีตก็เท่านั้น พี่ก็อยากจะเอาเรื่องของพี่มาแบ่งปันเรื่องราวให้พวกๆน้องที่เข้ามาอ่านได้รู้ และพี่ก็เชื่อว่าคนที่เข้ามาอ่านเรื่องที่พี่เขียน ก็อาจจะรู้สึกแบบเดียวกันกับพี่อยู่ก็ได้ และบทความที่พี่เขียนสามารถอ่านทุกช่วงวัยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนที่โตแล้วเท่านั้นถึงจะเข้ามาอ่านได้ ไม่ใช่เลย น้องๆเด็กเล็กๆ ก็เข้ามาอ่านได้เหมือนกัน และสิ่งสุดท้ายที่พี่จะบอกอีกเรื่อง บางครั้งเรื่องเล็กๆในชีวิตเราที่เราไม่ได้หวนคิดถึงมันเลย พอนานๆไปมันก็อาจจะลืมเลือนกันไปบ้าง แต่น้องๆเชื่อกันไหม เรื่องที่เราคิดว่าเราลืมมันไป แต่พอมีอะไรมาสะกิดมันนิดเดียว เรื่องที่เราคิดว่าเราลืม แต่อันที่จริงแล้ว เราไม่เคยลืมมันเลย มันยังคงเป็นความทรงจำที่ไม่ว่าเราจะคิดถึงมันเมื่อไหร่ ตอนไหน มันก็จะฉายเป็นฉากๆอยู่ในหัวเรา และเราก็จะยิ้มออกมาทุกครั้งที่เราคิดถึงมัน    

 

 


 

 

 

By. พี่แพร เอ็ดตะโร


แชร์ เรื่องเอ็ดตะโร

บทความ เอ็ดตะโร ล่าสุด

เรื่องของการ แอบรัก

เหลือเวลาเท่านี้อ่านหนังสือยังไงดีให้สอบติด TCAS64

อยากทำงานด้านภาพยนตร์เรียนอะไรดี

กลเม็ด เคล็ดไม่ลับ ทำยังไงถึงจะไม่หลับเวลาเรียน

 

 

 

สนับสนุนโดย

สยาม เอ็ดตะโร

804 ซอยเพชรเกษม 88 แขวงบางแคเหนือ
เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 10160

Email : siamedtaro@gmail.com
Phone : 08-5151-0100

Design By Webunique

แบบฟอร์มติดต่อเรา